สีเหลืองเยลโล่ว 1 ปีกับ Skooldio

Peeranat Danaidusadeekul

Peeranat Danaidusadeekul

June 17, 2023

รู้สึกแปลก ๆ กับการมาเล่าเรื่องแบบนี้แฮะ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะ ชื่อนิลนะครับ ตอนนี้เป็น Software Engineer ที่ Skooldio และก็อย่างที่ชื่อบทความเขียนไว้เลย ผมเพิ่งทำงานครบ 1 ปีพอดีเลยอยากมาแชร์ประสบการณ์การทำงานของตัวเอง แต่อาจจะเกริ่น Background ตัวเองซักนิดนึงนะครับ

เล่า Background คร่าว ๆ

นิลจบ Industrial Engineering (IE) จุฬาฯ ระหว่างเรียนตอนจบปี 3 ได้มีโอกาสไปฝึกงานแบบสหกิจศึกษา (ฝึกงาน 6 เดือน โดยจะเป็นการทำ Senior Project ร่วมกับทางบริษัท) ที่ True Digital Group ในตำแหน่ง Full Stack Developer ตอนนั้นได้ทำโปรเจคเป็นระบบ Telemedicine ขนาดย่อมโดยใช้ NuxtJS กับ NodeJS + Express แล้วรู้สึกว่าสนุกกว่าสิ่งที่ตัวเองเรียนมามาก นิลเลยตัดสินใจเบนสายไปทาง Software Engineer เลย หลังจากนั้นก็ได้สมัครเข้าทำงานและตัดสินใจมาทำที่ Skooldio ในตำแหน่ง Software Engineer ครับ

ทำไม Skooldio?

จริง ๆ นิลติดตามเพจ Skooldio ตั้งแต่นิลอยู่ปี 1 แล้ว ตอนนั้นนิลยังเห็น Skooldio เป็นแค่เพจขายคอร์ส (ที่ค่อนข้างมีราคาประมาณนึง 555) กับเพจที่แนะนำ Tips และ Tricks ต่าง ๆ ในการทำงานเท่านั้นเอง แต่นิลก็คิดว่าเป็นเพจที่ดีนิลเลยติดตามมาเรื่อย ๆ และสัมผัสได้ถึงพลังงานที่สนุกสนานจากคอนเทนต์ต่าง ๆ ในหน้าเว็บ ประกอบกับการที่ที่บริษัททำเกี่ยวกับการศึกษาที่เป็นส่วน Reskill Upskill ทำให้นิลรู้สึกว่าที่นี่น่าจะมี Environment การทำงานที่สนุกและท้าทายแน่ ๆ เลย เลยสนใจที่นี่มากครับ

เข้ามาทำงานเป็นยังไงบ้าง?

ต้องบอกก่อนว่านิลได้เข้ามาทำในทีม PoC (Proof of Concept) ของบริษัทซึ่งเป็นทีมขนาดเล็ก (ในทีมมี Dev 2 คน) โดยเป้าประสงค์ของ Team เราคือการสร้างของไว ๆ (ทุก Product ที่ทำไปมี Roadmap วางไว้นะไม่ได้ทำอะไรพร่ำเพรื่อ) เพื่อออกไปลองตลาดว่ามันขายได้หรือไม่ได้ เพราะงั้นเวลาเราได้พัฒนาของใหม่ ๆ ออกไปเนี่ย มันสนุกมากเลย ได้ลองเล่น Library ใหม่ ๆ ลอง Tech Stack อื่น ๆ ที่อาจจะไม่ได้ใช้ในบริษัทก่อนหน้านี้แล้วก็เอามาคุยกับพี่ใน Team ว่าเราจะลองใช้อันนี้ไหม ใช้อันนู้นใน Project เราไหม และก็ได้รู้ Process ตั้งแต่ขึ้น Repository ใหม่อีกด้วย นอกจากนี้เรายังได้มีโอกาสไปทำงานกับทีมอื่น ๆ เพื่อร่วมพัฒนาของที่มีอยู่ หรือไปช่วยเขา Research ของอะไรเร็ว ๆ ด้วยครับ พี่ใน Team ก็คอยช่วยเหลือกันตลอด รู้สึกว่าโชคดีมากได้อยู่ใน Team ที่ท้าทายและสนุกมากครับ รู้สึกว่าได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ตลอด โคตรมันส์ โคตรโหด โคตรอันตราย 💪

ข้ามสายมา ทำงานเป็นยังไงบ้าง?

อันนี้หลายคนก็ถามนะว่าข้ามจาก IE มาทำ Dev เนี่ย มึนหรือเปล่า หรือว่าตามคนอื่นไม่ทันหรือเปล่า? อันนี้นิลตอบตรง ๆ ว่าตอนแรกนิลรู้สึกว่านิลตามคนอื่นไม่ทันเลย รู้สึกว่าต้องไปหาอะไรมาเรียนรู้เพิ่มจนกว่าจะตาม Dev คนอื่นให้ทัน สุดท้ายตอนที่คุยกับพี่ Manager พี่เขาก็ Reflect กลับมาว่าจริง ๆ แล้วนิลก็ทำงานได้ตามที่ Senior/Manager เขาคาดหวังแล้วนะ แบบอาจจะไม่ต้องกดดันตัวเองขนาดนั้น ตอนนี้ก็เลยรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น แต่เราก็ต้อง Upskill เราไปเรื่อย ๆ แหละ 🔥

ทำงานมา 1 ปีมี Burn out บ้างไหม?

ไม่ถึงขั้นหมดไฟขนาดนั้น รู้สึกแค่ไม่มีความสุขเป็นบางช่วงครับ อาจจะเพราะว่านิล Dev เป็นงานหลัก Hobby และ Freelance ด้วย นิลเลยรู้สึกหมดสนุกหรือเบื่อในบางครั้ง แต่ทุก ๆ ครั้ง แค่ไปนั่งผ่อนคลายซักวัน 2 วัน นั่งเรียนอะไรชิว ๆ ไป ปรึกษา Manager หรือไปนั่งดูเว็บอื่น ๆ แล้วเห็นอะไรที่น่าสนใจก็จะกลับมาลุยต่อได้ตลอดครับ ยังไม่รู้สึก Completely Burn Out ขนาดนั้น

ทำไมต้องสีเหลืองเยลโล่ว?

โอเค อ่านกันมาถึงตรงนี้แล้วหลาย ๆ คนอาจจะงงการตั้งชื่อบทความของผมว่าสีเหลืองเยลโล่วมันไปอยู่บนนั้นได้ยังไง ต้องเล่าไปถึงตอนที่นิลสมัครมาทำงานที่นี่ นิลสมัครผ่านโครงการ Skooldio Day Zero ที่จะมี Form ให้กรอกและพอนิลได้กรอกไป นิลก็ไปสะดุดกับหัวข้อนึงที่เขียนอารมณ์ประมาณว่า “กรุณาแนะนำตัวเองที่นอกเหนือจากใน Resume” นิลก็เขียนไปเรื่อย ๆ ซักพักพอจะจบ นิลจบไม่ลง และก็คิดขึ้นมาได้ว่านิลอยาก Express ความตลกและสนุกของตัวเองไปด้วย นิลเลยเขียนประโยคท้ายลงไปว่า “ผมชอบดูมุขตลกครับ เช่น สีเหลืองเยลโล่ว บริษัทที่อยากเข้า Skooldio ผ่ามมม” นั่นละฮะ นิลเลยเอาข้อความตรงนั้นมาตั้งเป็นชื่อของบทความนี้ (อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะ แหะ ๆ)

สุดท้ายละ มา Part ขอบคุณดีกว่า

ขอบคุณเพื่อนร่วมงานทุกคน พี่ ๆ Manager และพี่ ๆ ในบริษัททุกคนมากครับ ทุกคนใจดีมากเลย ขอบคุณที่ Support นิลในหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะ Direct Manager ของนิลที่คอยเป็นที่ปรึกษาให้ตลอด เป็น 1 ปีที่ยอดเยี่ยมครับ 555 หวังว่าเราจะได้ลุยไปด้วยกันต่อในปีถัด ๆ ไปนะครับทุกคน (ถ้ามีคนในบริษัทมาอ่านอะนะ 5555) 🌟


จบไปแล้วกับบทความแรกนะครับ บทความนี้เหมือนเป็นการเริ่มที่จะเปลี่ยนบางอย่างของนิล และก็เป็นการอยากแชร์ประสบการณ์ครั้งแรกจากคนที่รู้สึกว่าตัวเองพูดไม่รู้เรื่อง 555 ยังไงถ้าใครรู้สึกยังไงก็สามารถมา Comment ติชมกันได้นะครับ จริง ๆ ตอนแรกบทความมันยาวกว่านี้เลยตัดออกไปเยอะอยู่ อยากเล่าแต่กลัวตัวเองพูดไม่รู้เรื่อง ถ้า Comment มาบอกกันก็จะช่วยและเป็นกำลังใจในการเริ่มที่ดีมากเลยครับ

ขอบคุณทุกคนที่อ่านกันมาถึงตรงนี้ครับ 🙂

นิล

Share: