สรุป UXTH Meetup: UX & Biometrics

Cover of สรุป UXTH Meetup: UX & Biometrics

สวัสดีครับ วันนี้นิลได้มีโอกาสไปงาน UXTH Meetup ในหัวข้อ UX & Biometrics มาครับ ช่วงนี้นิลกำลังสนใจด้าน UX อยู่และเห็น Topic นี้ค่อนข้างฉีกจากหัวข้อ Traditional UX ไปพอสมควรเลย นิลเลยลองไปดูฮะ ซึ่งนิลมาเลทไปครึ่งชั่วโมงแหละ แหะ ๆ ช่วงแรก ๆ มันหายไปนิสนึง ขอโทษด้วยฮะ ตอนที่นิลมาก็เป็น Session ของพี่เปี๊ยก UX Research ที่ SCG ซะแล้ว ซึ่งจะเป็นยังไงเดี๋ยวไปดูกันเลยครับ

ปกติแล้วในเชิง UX ปกติตาม Industry Standard เราจะสร้างของกันด้วยหลัก Lean UX ซึ่งก็คือ Build/Measure/Learn แต่กับที่ SCG แล้วจะเปลี่ยนเป็นแบบ Academic ซึ่งจะใช้เป็นหลัก No Measure/No Build ต้องมีการวัดค่าก่อน ถึงจะสร้างของออกมา ซึ่งปัจจัยที่ใช้วัดกันก็จะเป็น Satisfraction (ความพึงพอใจขอผู้ใช้งาน) Effectiveness (สร้างไปแล้วคนซื้อหรือไม่ซื้อ) Efficiency (User สามารถทำ Task ได้โดยที่ Cognitive Load น้อย ๆ ไหม) ซึ่งจากการวัดของเหล่านี้ เราจะทราบถึง Cognition (การรับรู้) Behavior (พฤติกรรม) และ Emotion (ความรู้สึก) ของผู้ใช้งาน ซึ่งตัว Behavior กับ Emotion จะทำให้เรารับรู้ Why ของ User ได้

เคสตัวอย่างแรกของการเอา Biometrics เข้ามาช่วยคือการออกแบบ Logo มา 6 อันและใช้ Software มาช่วย Analyze ว่า จาก Logo ทั้งหมดสามารถดึงดูดสายตาของผู้ใช้งานได้มากที่สุดเพื่อนำมาช่วยทีมตัดสินใจ นอกเหนือจากความชอบของปัจเจกบุุคคล

เคสที่ 2 ก็จะเป็นการให้ User ลองทำ Task โดยที่เราเปิด Webcam และ Software ที่ใช้ในการตรวจจับการมองว่าแต่ละขั้นตอนของการ Test นั้น User มองไปที่จุดไหนบ้าง

เคสที่ 3 จะเป็นการเอาแว่นตาที่ออกแบบมาสำหรับการทำ Eye Tracking มาใช้ร่วมกับเครื่องวัด EEG หรือเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าในสมอง เพื่อมาดูว่าตาของ User ดูข้อมูลที่จุดไหนและ User มี Cognitive Load ในจุดไหนไหม เพื่อนำไปปรับปรุง UX ของ Product ซึ่งสมมติเราออกแบบมาให้แอปใช้งานง่าย ถ้า User จ้องจุดไหนเกิน 200 milliseconds และมี Cognitive Load สูงก็จะเข้าไปถาม User เพิ่มในจุดนั้น ๆ

เคสที่ 4 คือการใช้ Web App ที่เป็น Machine Learning ในการจับการแสดงออกทางสีหน้า (Facial Expression) ดูว่าในช่วงที่ใช้งาน อารมณ์ของ User เป็นอย่างไร ซึ่งในการทำ Test ก็จะมีการส่ง Test ไป 2 ชุด ชุดแรกเป็นชุดที่ทำให้ User นิ่ง ๆ เพื่อเป็น Baseline สำหรับการดูว่า User คนนี้ Express อารมณ์อย่างไร

พี่เปี๊ยกบอกว่ามีงานวิจัยที่ว่าคนจากตะวันตกจะแสดง Facial Expression ได้ดีกว่าคนเอเชียด้วยครับ

พี่เปี๊ยกบอกว่าในการทำ Business Ideas Experiment เนี่ย มี Methodology มากมายเลย และมีการ Experiments อยู่ 2 แบบนั่นคือ Discovery Experiments ซึ่งเป็น Experiment ที่ใช้ในช่วงแรก ๆ ของ Process ทั้งหมด เพื่อใช้ตอบคำถามปลายเปิดครับ เช่นการทำ Card Storing, Paper Prototype หรือ การทำ User Interview กับอีกแบบนั่นคือการทำ Validation Experiments ซึ่งเป็นการทำ Experiment เพื่อตอบคำถามปลายปิดบางอย่าง เช่น ถ้าเปลี่ยนปุ่มเป็นสีฟ้าแล้ว User จะ Click เพิ่มขึ้น 10% ใช่ไหม (A/B Testing) หรือการทำ Clickable Prototype ให้ User ลองเล่น เพื่อ Validate ว่าสิ่งที่เราสัมภาษณ์ User และออกแบบตามสิ่งที่เราสัมภาษณ์มาแล้ว User มีประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นไหม ซึ่งการใช้ Biometrics นั้นสามารถนำมาใช้ได้ทั้ง 2 Experiments เลย ขึ้นกับว่าจะใช้ในเป้าหมายไหน

หลังจากจบงานก็ได้มีโอกาสคุยกับพี่เปี๊ยกเพิ่มเรื่องของ Biometrics และ Business ครับ เพราะนิลแอบสนใจเรื่องนี้อยู่ พี่เปี๊ยกก็บอกว่าจริง ๆ ชาว Engineer เนี่ยจะมีความอยากสร้างของขึ้นมา แบบ อยากเอาโค้ดขึ้น Git ว่ะ แบบเท่ ๆ แต่ไม่สามารถตอบว่าสร้างของมาทำไมได้ 55555555

นอกจากนี้ทาง Business จะมีการทำ Business Model Canvas มาเป็นตัวช่วยและทำให้เราสามารถระบุความเสี่ยงทั้งหมดที่อาจจะเกิดขึ้นในเชิง User, Business, และ Technical Feasibility ซึ่งความเสี่ยงส่วนที่จะรีบไป Validate ก่อนคือความเสี่ยงฝั่ง Business และ User ก่อน เพราะถ้าเรายังลดความเสี่ยง 2 เรื่องนี้ไม่ได้ก็ไม่ต้องไป Implement ต่อหรอก ตามหลัก No Measure/No Build

จากการ List ความเสี่ยงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น พี่เปี๊ยกและทีมก็จะไป Measure เพื่อลดความเสี่ยงที่จะสร้างของมาและไม่มีคนใช้ หรือสร้างของมาแล้ว User ใช้ไม่เป็นให้มากที่สุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ถ้าฝั่ง Management เคาะมาว่าเราจะสร้างสิ่งนี้แบบที่รู้ความเสี่ยงแล้ว = รับผิดชอบร่วมกัน 55555555

ก่อนจะแยกย้ายพี่เปี๊ยกก็โยน Keyword ให้ไปศึกษาต่อด้วยครับ ซึ่งถ้าใครสนใจ Deep Dive ต่อก็แนะนำ Keyword “Neuromarketing” กับ”Consumer Neuroscience” เลยครับ และถ้าอยากหา Pocket Book เกี่ยวกับเรื่องนี้อ่านไว ๆ สามารถไปดูกันได้ที่ https://imotions.com/ และถ้าสนใจในขาของ Business Experiments ก็แนะนำหนังสือ Testing Business Ideas ของ David Bland กับ Alexander Osterwalder ด้วยครับ

จบไปแล้ว นิลคิดว่านิลจะสรุปรู้เรื่องนะ วันนี้ลองสรุปแบบพี่ ๆ ที่บ.บ้าง แต่นิลยังช้ากว่าพี่ ๆ มากเลย จะค่อย ๆ ปรับปรุง Skill การสรุปตัวเองไปเรื่อย ๆ ครับ ถ้าใครสนใจงาน Meetup แบบนี้สามารถติดตามได้ที่เพจ UX Thailand ได้เลยคร้าบบ

Posted: August 24, 2024

Related Posts

Cover of สรุป Session จากงาน SCBX Unleashing CX: EP3 Figma Bangkok Meetup

สรุป Session จากงาน SCBX Unleashing CX: EP3 Figma Bangkok Meetup

สวัสดีครับ วันนี้นิลได้มีโอกาสไปงาน SCBX Unleashing CX: EP3 Figma Bangkok Meetup มาครับ ซึ่งในงานก็มี Session ในฟังถึง 3 เรื่องเลย หัวข้อแรกพี่แบงค์มาพูดถึงเทคนิคและวิธีการจัดระเบียบ Design System ในสำหรับงาน Scale เล็ก กลาง ใหญ่ครับ หัวข้อที่ 2 อ.วิชัยจากเพจ Qwerty is a DUCK วันนี้อาจารย์มาแบ่งปัน Tools เพื่อเพิ่ม Quality of Life ให้กับชาว Design ครับ และ Session สุดท้าย พี่แบงค์ อ.วิชัย และคุณเอกจากเพจ UncleAke มาเปิดวงคุยเกี่ยวกับ Figma UI3 ว่ามันต่างจาก UI เก่ายังไงและเขาสูญเสียอะไรไปบ้างเพื่ออะไรครับ แต่ละหัวข้อจะเป็นยังไง ไปดูกั๊น

meetup-2024 meetup

November 1, 2024

Cover of สรุป Session - Design for better Digital Government Services

สรุป Session - Design for better Digital Government Services

สรุป Session: Design for better Digital Government Services ในงาน SCBX Unleashing CX: EP2 Designing for Maximum Impact and Scale ซึ่งเป็น Session ของพี่ณัฏฐ์ เพ็ญชาติ Community Founder ของ Thai Gov Design ครับ พี่ณัฏฐ์พูดถึงงานอดิเรกที่ชอบถ่ายรูปครับ ซึ่งเวลาถ่ายรูปเราจะมีเลนส์ระยะกว้าง ระยะกลาง ระยะไกล ซึ่งเมื่อเราใช้เลนส์คนละระยะ เราก็จะเห็นเรื่องราวที่ไม่เหมือนกัน ปกติเวลาเราดีลงานราชการเราก็จะเห็นแต่ Spec กับ TOR เหมือนได้เห็นภาพจากเลนส์มุมกว้างเลย แต่พี่ณัฏฐ์อยากมาชวนทุกคนดูภาพจากเลนส์ซูมบ้าง

meetup meetup-2024

September 12, 2024