สรุป OC24: LeSSExample

Peeranat Danaidusadeekul

Peeranat Danaidusadeekul

November 23, 2024
สรุป OC24: LeSSExample

มาต่อกับอีก 1 Session ของพี่ส่ง Product Developer แห่งทีม LeSSExample ที่จะพาทุกคนมารู้จักกับ LeSSExample ให้มากขึ้นครับ

  1. LeSSExample คือ LeSS + Example เดี๋ยวอธิบายแต่ละอันให้ฟัง
  2. ก่อนจะรู้จัก LeSS ต้องรู้จัก Scrum ก่อน
  3. ตามหลักของ Scrum จะดีจะแย่ เรารู้ตัวก่อนเสมอ
  4. ในทีม Scrum 1 ทีมประกอบไปด้วย Product Owner, Scrum Master, Team แต่ละคนมีศักดิ์เท่ากันแต่มี Focus แตกต่างกันไป
  5. Product Owner (PO) จะเป็นคนที่ต้อง Focus เรื่องของ Return of Investment
  6. PO ยังต้องเลือกและตัดสินใจว่าจะให้ Team แก้ปัญหาอะไร ทำไปทำไม ทำแล้วได้อะไร และทำแล้วได้ Value อะไร
  7. Team เป็นคนที่ต้อง Focus เรื่อง Solution จาก Business Requirement นี้ จะไปทางไหนได้บ้าง ใช้ Effort เท่าไหร่
  8. Team ต้องรับผิดชอบ Solution ที่ตัวเองเลือกด้วย เช่น ถ้าเลือก Deploy เย็นวันศุกร์ เสาร์เว็บบึ้ม Team ต้องมาแก้ให้เว็บใช้งานได้ในวันเสาร์ด้วย
  9. Scrum Master เป็นคนที่ Focus ว่าจะทำยังไงให้ Scrum มัน Work สำหรับคนทั้งองค์กร และทำยังไงให้ PO ทำงานร่วมกับทีมได้
  10. นอกจากนี้ Scrum Master ยังต้องเป็นคนหาว่าเราสามารถปรับเปลี่ยนอะไรในเชิงโครงสร้างองค์กรได้ไหม เพื่อทำให้ทีมแสดงศักยภาพได้มากที่สุด
  11. LeSS คือการเอา Scrum มาใช้ในภาพใหญ่ขึ้น ซึ่งรองรับ Scrum 2-8 ทีม
  12. ส่วนคำว่า Example คือทำให้เป็นตัวอย่างแหละ
  13. เอามารวมกันเลยแปลว่าเดี๋ยวเราทำ LeSS ให้เป็นตัวอย่างนะน้อนๆ 5555555
  14. LeSSExample ประกอบไปด้วย 3 Scrum Team และมี 1 Backlog ร่วมกัน
  15. LeSSExample เคยอยากทำ Product การเงินชื่อว่า “ออม” ซึ่งมี Target Group เป็น Freelance แบบชาว ODDS| นี่แหละ แต่ทีมไม่มี Domain Knowledge เกี่ยวกับ Investment Product
  16. ทีมเลยไปรับ Turnkey Project เกี่ยวกับ Investment เพื่อเติม Domain Knowledge และหา Revenue Stream เพื่อเอาไปทำ Investment Product ที่อยากทำ
  17. ตอนนี้ทีมทำอยู่ 13 Projects ซึ่งรวมกันเป็น Backlog ที่มีชื่อ Investment Product
  18. อีก 1 Ceremony ที่เกิดใน LeSS ที่น่าสนใจคือ Product Backlog Refinement (PBR) เป็น Session ที่เราจะพา Team พยายามเข้าใจปัญหาที่ PO ต้องการให้ Team แก้
  19. Session นี้จะเป็นการแบ่ง Team ออกเป็น Mixed-up Group คือคละ ๆ คนจากแต่ละทีมแหละ
  20. เสร็จแล้ว Scrum Master ก็จะบอก Goal ที่ PO ต้องการและให้ Team เข้า Process ของ PBR
  21. ขั้นแรกเรียกว่า Diverge ซึ่งใช้เวลา 20 นาทีคือให้แต่ละ Mixed-up Group หยิบการ์ด ถอดความเป็น Technical ออกและพยายามทำความเข้าใจมุมลูกค้า หรือถ้าเป็น Product ใหม่ ก็พยายามทำความเข้าใจ Journey ของลูกค้า เมื่อเสร็จแล้วให้จดว่าใครบ้างที่อยู่ใน Mixed-up Group ของตนลงในการ์ดใบนี้
  22. ในช่วง Diverge ถ้ามีคำถามสงสัยเราสามารถคุยกับ PO เพื่อเอาข้อมูลเพิ่มเติม หรือถ้าสงสัยจุดไหนที่เป็น Requirement ลูกค้า สามารถคุยกับลูกค้าได้โดยตรง
  23. จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปนั่นคือ Merge ซึ่งจะใช้เวลา 10 นาที โดยเราจะเอา Mixed-up Group ทุกกลุ่มมารวมกัน และสุ่มคนมาเล่าการ์ดที่เพิ่งถูก Refine มา
  24. ซึ่งถ้าสมมติมีคนที่มี Domain Knowledge เกี่ยวกับการ์ดที่กำลังถูกพูดถึงอยู่ก็สามารถเสริมให้กับคนที่กำลังเล่าได้
  25. จากนั้นเราจะเข้าสู่ขั้นตอนที่ 3 ของ PBR นั่นคือ Repeat ก็คือเราจะวนกลับไป Diverge กับ Merge เรื่อย ๆ
  26. ส่วนใหญ่แล้ว PBR จะเกิดขึ้นวันพุธที่ 2 ของ Sprint และใช้เวลา Session ละ 2 ชั่วโมง
  27. หลังจากที่จบ PBR ทีมจะกล้าเคลมได้ว่าทุกคนในทีมเข้าใจ Backlog Item ที่ผ่าน Process นี้ไปได้
  28. ปัจจุบันทีม LeSSExample ยังเปิดให้คนภายนอกสามารถเข้ามาดูได้ว่าทีมทำงานกันยังไง โคตรโหดโคตรอันตราย

ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วสนใจเข้าไปศึกษา LeSS จากทีม LeSSExample สามารถติดต่อไปได้ที่ https://lessex.odds.team/

Share: