สวัสดีครับ วันนี้นิลมาเล่าในเรื่องที่เป็นปัญหาของนิลในช่วงที่ผ่านมานะครับ คือทุกคนอาจจะเห็นนิลมีหัวข้อ Blog มาเล่าในทุกอาทิตย์เลย แต่จริง ๆ แล้วนิลมีหัวข้อที่มันเยอะกว่านี้อีก ช่วงแรก ๆ นิลก็เก็บไว้ทั้งหมดครับ อยากจะเขียน Blog สำหรับทุก ๆ หัวข้อเลย แต่ช่วงหลัง ๆ นิลเลือกที่จะช่างแม่งหัวข้อที่นิลกลับไปเขียนแล้วไม่ Sparkjoy และก็ลบทิ้งได้แล้ว Blog นี้อาจจะเป็นประโยชน์กับสายดองคอนเทนต์นะครับ ทำไมนิลถึงเลือกโยนหัวข้อที่นิลดองไว้ทิ้งไป มาดูกันครับ
นิลหาหัวข้อการเขียนมาจากไหน
หลาย ๆ คนเห็นนิลเขียน Blog ทุกอาทิตย์ก็อาจจะเกิดคำถามว่านิลหาหัวข้อ Blog มาจากไหน ทำไมมันไม่หมดซักที ซึ่งนิลตอบตรงนี้เลยว่านิลได้มาจากประสบการณ์ในการทำงานและการคุยกับคนครับ เวลาที่นิลทำงานไปถึงจุด ๆ นึง มันจะเกิดวุฒิปัญญาซักอย่างนึงว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าแชร์จังเลย แล้วนิลก็จะเอามาเล่าครับ หรือว่าเวลาที่นิลคุยกับคนอื่น ๆ บางทีนิลก็จะได้ยินคำพูดบางคำที่นิลรู้สึกว่า “นี่แหละ แม่งโคตรโหด โคตรอันตราย โคตรไร้เทียมทาน” และนิลก็เอามาเขียนเป็น Blog โดยผ่านการเล่าด้วยมุมมองของนิลต่อคำพูดหรือเรื่องนั้น ๆ ครับ เช่น เรื่องการ Manage Expectation ในที่ทำงานอันนี้นิลก็ได้มาจากการคุย One on One กับพี่ Manager ของนิลครับ
กว่าจะคุยจนได้หัวข้อมันนานแค่ไหนนะ
อันนี้ขึ้นกับการคุยเลยครับ บางทีนิลได้หัวข้อจากการคุยเล่นด้วยซ้ำ แบบหัวข้อ “ทำไมเราต้องลาพักผ่อน”เนี่ย นิลก็ได้จากการคุยเล่นในทีมแบบ เพื่อนในทีมไม่ยอมลาแล้วก็พูดว่า “ลาไปก็ไม่รู้จะทำอะไร” นิลเลยมา Reflect ในความคิดของนิลอีกทีและก็เกิดเป็นเนื้อหา Blog นั้นครับ หรือบางทีเราอาจจะ ซึ่งต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่ว่านิลจะคาดหวังคอนเทนต์จากการคุยทุกครั้งนะครับ สิ่งนี้มันเป็นแค่เพียงพลพลอยได้จากการคุยเฉย ๆ
แบบนี้คุยเยอะ ก็ได้หัวข้อเยอะ ก็ดีแล้วหนิ?
อืมมมมม ในช่วงแรก ๆ นิลคิดงั้นครับ นิลรู้สึกว่าเรามี Stock ไว้เยอะ ๆ เวลาที่เราคิดหัวข้อไม่ออกเนี่ย นิลจะได้แบบดึงหัวข้อพวกนี้มาเล่า นิลจะได้มีเรื่องเล่าตลอดเลย เย้ ๆ แต่มันไม่ใช่อย่างงั้นครับ สุดท้ายสิ่งที่นิลพลาดไปคืออารมณ์และความรู้สึกร่วมตอนเล่าครับ
เวลาที่นิลอยากเล่าหัวข้อไหนเนี่ย นิลจะรู้สึกอยากแชร์ อยากเล่า และค่อยเอามาเขียนต่อครับ ประเด็นมันอยู่ตรงนี้แหละครับ หัวข้อที่มันอยู่มานาน ๆ แล้วเนี่ย บางทีนิลไม่มีความรู้สึกอยากแชร์มันแล้ว นิลรู้สึกว่ามันเริ่มกลายเป็นหัวข้อธรรมดาไปแล้ว หรือนิลก็มองว่ามันก็เป็นเรื่องที่นิลอาจจะเคยแชร์ ๆ ไปแล้วในหัวข้อเก่า ๆ นิลก็จะไม่ได้เขียน Blog จากหัวข้อพวกนี้ครับ
มันเริ่มกลายเป็นปัญหาตอนที่มันมีเรื่องพวกนี้อยู่แบบ 20 เรื่องและนิลต้องเลือกมันมาเขียนครับ นิลจะรู้สึกว่ามันมีตัวเลือกเยอะไปหมดเลย คล้าย ๆ หลักการเกี่ยวกับ User Experience อันนึงครับ ชื่อว่า Hick’s Law เวลาเราที่มีตัวเลือกให้ User เยอะ ๆ User จะใช้เวลามากขึ้นในการตัดสินใจ สิ่งนั้นมันก็ถูกนำมาใช้กับการเลือกหัวข้อที่นิลใช้เขียนด้วย สุดท้ายนิลก็จะเสียเวลาตรงนี้ไปเยอะ แล้วด้วยความที่อยากเล่าหลายเรื่องมันก็จะมีความเปลี่ยนหัวข้อระหว่างทางบ่อย
แล้วนิลทำยังไงเพื่อแก้ปัญหานี้ล่ะ
นิลได้ไปคุยเรื่องนี้กับพี่คนนึงที่ออฟฟิศครับ สิ่งที่พี่เขาแนะนำมาก็คือ ถ้าเราไม่อยากเล่าหรือไม่ผูกพันกับหัวข้อนั้น ๆ แล้ว เราก็แค่ลบทิ้งไปครับ ซึ่งนิลก็กลับมานั่งคิดครับว่านิลจะสามารถลบหัวข้อที่นิลไม่ Sparkjoy ได้จริง ๆ หรือเปล่า ซึ่งบอกตรง ๆ ว่าช่วงแรก ๆ นิลทำไม่ได้เลยครับ แต่ละหัวข้อนิลรู้สึกว่ากว่าจะได้แต่ละอันมานี่แบบ ชั้นต้องทำงานมากถึงจุดไหนนะถึงได้หัวข้อนี้มา หรือชั้นต้องคุยกับคนมากแค่ไหนนะถึงจะได้มุมมองเรื่องเหล่านี้มา แต่ถ้ามาถามนิลในช่วงนี้นิลก็จะตอบว่านิลพร้อมจะลบหัวข้อที่นิลไม่รู้สึกผูกพันออกไปอย่างง่ายดายเลยครับ นิลรู้สึกว่าในช่วงหลัง ๆ มันกลายเป็น Pain มากขึ้นที่นิลต้องมานั่งจิ้มเลือกแบบ 20 อันว่าจะเล่าอันไหนนะ ทุกวันนี้นิลก็เหลืออยู่ประมาณ 4 ~ 6 หัวข้อเก็บเอาไว้และก็เลือกเอาแค่นี้หรือถ้ามีหัวข้อไหนที่อยากเล่าแทรกเข้ามา นิลก็จะ Revise หัวข้อที่นิลมีอีกทีว่าไม่อยากเล่าอันไหนไหมนะ เพื่อเก็บแต่หัวข้อที่อยากเล่าออกไป
สิ่งที่อยากบอกสายดองคอนเทนต์
อันนี้แหละเนื้อคอนเทนต์ของนิลละ 555555 นิลอยากจะบอกทุกคนที่กำลังดองคอนเทนต์และเกิดอาการรักพี่เสียดายน้องแบบนิลก่อนหน้านี้ว่า ถ้าเราไม่อยากเล่าแล้ว เราก็แค่ช่างแม่งครับทุกคน อย่าเลือกที่จะเก็บของทุกอย่างไว้เลย นอกจากบางทีเราจะเสียเวลาในการเลือกว่าอยากเล่าเรื่องอะไรแล้ว บางทีเรายังต้องมานั่งเล่าในสิ่งที่เราไม่อยากเล่าอีก สุดท้ายเราก็อาจจะรู้สึกไม่ชอบหรือไม่อยากเขียนเลยก็ได้
เอาล่ะ จบไปแล้วนะครับ วันนี้อาจจะเป็น Blog ที่นิลมาแชร์กับสายดองคอนเทนต์นะครับ และก็มาแชร์ว่าในช่วงที่ผ่านมานิลมีปัญหาอะไรกับการเขียนบ้าง ไม่รู้จะเป็นประโยชน์กับคนอื่น ๆ หรือเปล่า แต่อันนี้ก็เป็นหัวข้อที่นิลอยากแชร์แหละ เลยมาแชร์กัน 555555 ยังไงก็ขอบคุณทุก ๆ คนที่อ่านมาถึงจุดนี้นะครับ
– นิล –